เที่ยวอังกฤษคนเดียว 11วัน (11Days in UK)
Eilean Donan Castle Joined with Rabbie's Tour (Isle of sky, 3Day) |
Part 1 การเตรียมตัว เดินทางไป UK http://ssrinuanchat.blogspot.com/2017/02/blog-post.html
Part 2 การยื่นวีซ่า และจองที่พัก จะมีบอกราคาที่เราจองในตอนนั้นด้วยค่ะ http://ssrinuanchat.blogspot.com/2017/02/visa-uk.html
รูปภาพอาจจะไม่ละเอียด เพราะเวลาเราไปเที่ยวไหน เราจะถ่ายรูปน้อยมาก จะใช้แค่ตามองและจำสถานที่ต่างๆที่เดินทางไป ^^ มันเลยติดนิสัย ไม่ค่อยหยิบกล้องมาถ่ายค่ะ
ขอโทษสำหรับคนที่อ่านแล้วเห็นภาพไม่ชัดเจนนะคะ รอบหน้าไปเที่ยว จะปรับปรุงตัวเองค่ะ
รูปภาพอาจจะไม่ละเอียด เพราะเวลาเราไปเที่ยวไหน เราจะถ่ายรูปน้อยมาก จะใช้แค่ตามองและจำสถานที่ต่างๆที่เดินทางไป ^^ มันเลยติดนิสัย ไม่ค่อยหยิบกล้องมาถ่ายค่ะ
ขอโทษสำหรับคนที่อ่านแล้วเห็นภาพไม่ชัดเจนนะคะ รอบหน้าไปเที่ยว จะปรับปรุงตัวเองค่ะ
ฮัลโหล!!!! มาละจ้าาา (ไม่รู้มีใครอยากอ่านมั้ย 555++) พาร์ทนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ และการเดินทางใน United Kingdom 11 วันนะคะ(เต็มยศเลย555) เราจะเริ่มตั้งแต่ สนบ.สุวรรณภูมิเลยละกัน
Let's go......
EVA Airline , direct flight BKK to LHR ขึ้นเครื่องเวลาไทย 13.05น. ถึงโน้นเวลาลอนดอน 19.20น. |
***บนเครื่องแจกอาหาร 2 มื้อค่ะ ขึ้นเครื่อง 1มื้อแล้วก็ก่อนลงอีก 1มื้อค่ะ ส่วนเครื่องดื่มและขนม ก็จะมีมาแจกเรื่อยๆค่ะ
สิ่งของที่ต้องนำขึ้นเครื่อง
สิ่งของที่ต้องนำขึ้นเครื่อง
1. Passport (เราเอาเล่มที่หมดอายุไปด้วย 1เล่มค่ะ)
2. กระเป๋าใบเล็ก 1ใบ (ไม่เกิน 7 กิโลกรัม และไม่มีของเหลวกับครีม)
2. กระเป๋าใบเล็ก 1ใบ (ไม่เกิน 7 กิโลกรัม และไม่มีของเหลวกับครีม)
3. ใบการจองที่พักทุกที่พักที่เราไปนอน
4. ใบรับรองการทำงาน
5. ยาประจำตัว (ควรมีภาษาอังกฤษ ป้องกันการตรวจดูของทางสนามบิน Heathrow)
6. Power bang ไม่เกิน 32,000 mAh รวมสายชาร์ตทุกชนิดที่มี เพราะบนเครื่องมีให้ชาร์ตค่ะ
7. ปากกา
8. กล้องทุกชนิด
9. Email ที่ยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน
10. สมุดโน๊ตพร้อมบันทึกการใช้จ่าย หรืออะไรก็ได้ที่อยากเขียน แต่เราบันทึกใส่โทรศัพท์ค่ะ
11. เสื้อกันหนาว ถึงแม้ว่าบนเครื่องจะมีผ้าห่มกับหมอนให้ แต่ควรมีเสื้อกันหนาวไปค่ะ (ไม่ใช่เสื้อโค้ช)
9. Email ที่ยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน
10. สมุดโน๊ตพร้อมบันทึกการใช้จ่าย หรืออะไรก็ได้ที่อยากเขียน แต่เราบันทึกใส่โทรศัพท์ค่ะ
11. เสื้อกันหนาว ถึงแม้ว่าบนเครื่องจะมีผ้าห่มกับหมอนให้ แต่ควรมีเสื้อกันหนาวไปค่ะ (ไม่ใช่เสื้อโค้ช)
***บางข้อ คุณอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่เชื่อมั้ย เวลาไป Check in ที่ สนบ.จะมีเหตุการณ์ คือเอาPower Bang และกล้องใส่กระเป๋าสำหรับโหลดทุกครั้ง อันนี้คือมาเตือนอีกทีค่ะ
กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง
1. ควรมีถุงแยกผ้าเล็กๆเพื่อความสะดวกในการรื้อของ แล้วก็จัดแยกประเภทเสื้อผ้าไปเลย
2. ของเหลวควรมีถุงอีกชั้นเพื่อกันแตก หรือป้องกันการไหลออกมาจากขวด เพราะใต้เครื่องมีแรงดัน อาจจะทำให้ครีมทะลักออกมาเปื้อนกับเสื้อผ้าค่ะ
ที่เหลือก็จัดตามที่เราถนัดและควรจำด้วยว่าอะไรอยู่ตรงไหน (เพราะกระเป๋าเราคือเป้แบ็คแพ็ค) จะได้หยิบสะดวกค่ะ
รายละเอียดตั๋วเครื่องบิน
สนามบินสุวรรณภูมิ
กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง
1. ควรมีถุงแยกผ้าเล็กๆเพื่อความสะดวกในการรื้อของ แล้วก็จัดแยกประเภทเสื้อผ้าไปเลย
2. ของเหลวควรมีถุงอีกชั้นเพื่อกันแตก หรือป้องกันการไหลออกมาจากขวด เพราะใต้เครื่องมีแรงดัน อาจจะทำให้ครีมทะลักออกมาเปื้อนกับเสื้อผ้าค่ะ
ที่เหลือก็จัดตามที่เราถนัดและควรจำด้วยว่าอะไรอยู่ตรงไหน (เพราะกระเป๋าเราคือเป้แบ็คแพ็ค) จะได้หยิบสะดวกค่ะ
อยู่บนเครื่อง 12ชม. ก็หาอะไรบรรเทิงไปค่ะ ^^ มีที่ชาร์ตแบบ USB ให้นะคะ |
Bangkok to London | |||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Flight 1 | Tuesday, January 24, 2017 | ||||||||||||||||||||||||||||||
Confirmed |
| ||||||||||||||||||||||||||||||
London to Bangkok | |||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Flight 1 | Saturday, February 04, 2017 | ||||||||||||||||||||||||||||||
Confirmed |
|
- ควรไปถึงสนามบินก่อน 3ชั่วโมงก่อนเดินทาง เผื่อเวลาฉุกเฉิน หรือจะช้อปปิ้งในเกทค่ะ
- น้ำหนักกระเป๋า เราได้ 30 กิโลกรัม แต่กระเป๋าเราแค่ 17.3 กิโลกรัมเอง
ที่เหลือก็ Check in ตามปกติค่ะ แต่พอเข้าเกทไป มันไม่ปกติค่ะ เขาแจ้งเปลี่ยนเกท!!!! เราก็วิ่งไปหาเกทใหม่ และก็ทันเวลา เพราะว่าเรามาก่อน 3ชม เวลาเราเหลือค่ะ
สถานการณ์บนเครื่องบิน ไม่น่ากลัวค่ะ อากาศแจ่มใส แต่มีหนาวนะคะ นั่งๆนอนๆไป 12 ชม. นอนก็ไม่ค่อยหลับ ตื่นเต้นไง 555
สนามบินฮีทโทรว (Heathrow airport)
ที่เหลือก็ Check in ตามปกติค่ะ แต่พอเข้าเกทไป มันไม่ปกติค่ะ เขาแจ้งเปลี่ยนเกท!!!! เราก็วิ่งไปหาเกทใหม่ และก็ทันเวลา เพราะว่าเรามาก่อน 3ชม เวลาเราเหลือค่ะ
สถานการณ์บนเครื่องบิน ไม่น่ากลัวค่ะ อากาศแจ่มใส แต่มีหนาวนะคะ นั่งๆนอนๆไป 12 ชม. นอนก็ไม่ค่อยหลับ ตื่นเต้นไง 555
Menu อาหารบนเครื่อง มี 2แบบให้เลือกเราก็เลือกทั้ง 2แบบ ที่เห็นภาษาจีน เพราะ EVA เป็นสายการบินสัญชาติไต้หวันค่ะ |
UK Border มีความสำคัญ ห้ามลืมกรอกนะค่ะ!!! จะแจกตอนเครื่องจะลง หรือตอนเราขึ้นเครื่องเลยค่ะ กรอกทุกอย่างตามจริง ถ้าใครทำหายบนเครื่องหรือหาไม่เจอ ก่อนที่จะเจอ ตม. เขาจะมีแจก รีบไปคว้ามาเขียนนะคะ จะไม่มีใบให้กรอกแบบเข้าญี่ปุ่น หรือเกาหลีนะ ในส่วนของที่อยู่ เขาขอแบบ Full เราก็ควรจัดให้เขาแบบ Full เช่นกัน เขียนไปค่ะ ไปพักที่ไหนบ้าง เราเขียนตัวเล็กมาก
เราเขียนแบบ คือ 24-25 Jan17 Clink261 , 25-27 Jan17 Royal mile backpacker , 27-29Jan17 Joined with Rabbie's tour , 29Jan17 Royal mile backpacker , 30-31 Jan17 YHA Ambleside , 31Jan17-4Feb17 Clink 261 เราเขียนเต็มแบบนี้จริงๆค่ะ ^^
![]() |
UK Border , Landing card รูปภาพไปเอามาจากเว็บค่ะ |
ถึงละค่ะอังกฤษ #อิ้งแลนด์แดนมหัศจรรย์ เตรียม Passport และ Landing card ค่ะก่อนเลยค่ะ อย่างอื่นเก็บในกระเป๋าก่อนนะ อย่าเพิ่งโชว์ ค่อยโชว์ตอนเขาขอดูนะคะ แล้วก็รีบไปให้ถึง ตม. ก่อน คนจะได้ไม่เยอะ และจะบอกว่ารีบไปก่อนดีกว่าค่ะ ตม. ถามเราน้อยมากจริงๆค่ะ พอหลังจากเรา คนเริ่มเยอะ ตม. เริ่มถามเยอะค่ะ อันนี้เอาความรู้สึก ณ ตอนนั้นมาบอก
ด่านตรวจคนเข้าเมืองสหราช (UK immigration)
Passport กับ Landing card พร้อมค่ะ เข้าไปเลยเดินไปอย่างมุ่งมั่น คิดไว้ในใจเสมอว่า ต้องผ่าน อยากเที่ยว อย่าถามเยอะ 555++ เราเจอกับ ตม.แก่ๆคนนึง ดูหน้าดุมาก แล้วมองเราลอดผ่านแว่นตาแว้ปนึง แล้วเขาก็มองที่ Landing card ที่เราเขียนแว้ปนึง แล้วก็มองเราอีกรอบพร้อมคำถาม
ตม. : Travelling alone?
เรา : Yes!!!
ตม. : Do you have flight to go back? (น่าจะประมาณนี้นะ)
เรา : Yes,Sure
ตม. : Let me look
เรา : หยิบ Email ที่จองตั๋วมาค่ะ *ย้ำนะคะว่า เขาขอดูอะไรหยิบอันนั้น อย่ากองรวมให้เขาหาค่ะ*
ตม. : เขาก็เช็คไฟท์บินกลับของเรา
ตม. :What dose is mean your work? คือเราเขียนว่า Local Merchandise
เรา : Like a pusrchase in Thailand (ดูคำตอบซะก่อน 555++ บ่งบอกถึงภาษาที่อ่อนแอ)
ตม. : Ok, I don't understand your work แล้วก็ปั้ม ผ่านค่ะ ดีใจมากค่ะ!!!! กรี๊ดได้กรี๊ดไปแล้ว 555++
ตม. : Travelling alone?
เรา : Yes!!!
ตม. : Do you have flight to go back? (น่าจะประมาณนี้นะ)
เรา : Yes,Sure
ตม. : Let me look
เรา : หยิบ Email ที่จองตั๋วมาค่ะ *ย้ำนะคะว่า เขาขอดูอะไรหยิบอันนั้น อย่ากองรวมให้เขาหาค่ะ*
ตม. : เขาก็เช็คไฟท์บินกลับของเรา
ตม. :What dose is mean your work? คือเราเขียนว่า Local Merchandise
เรา : Like a pusrchase in Thailand (ดูคำตอบซะก่อน 555++ บ่งบอกถึงภาษาที่อ่อนแอ)
ตม. : Ok, I don't understand your work แล้วก็ปั้ม ผ่านค่ะ ดีใจมากค่ะ!!!! กรี๊ดได้กรี๊ดไปแล้ว 555++
King's cross Station |
หา Sim card
จากที่เคยบอกไปแล้วว่า เราซื้อ sim card จากไทย แต่ใช้ไม่ได้ เลยไปซื้อใหม่ที่โน้น มันมีให้เลือกซื้อจากตู้ กับซื้อตามร้าน เราเลือกซื้อตามร้าน แล้วให้เขาติดตั้งให้เลยค่ะ ที่สนามบินมี เดินไปตามทางที่บอกว่าไป underground แล้วจะเจอค่ะ (ลืมถ่ายรูปร้านซื้อ sim card อีกแล้วค่ะ)
ซื้อ Sim card เสร็จแล้ว เราแนะนำให้โหลด Tube map app เพื่อช่วยให้การเดินทางในลอนดอนง่ายขึ้นหรือให้เรารู้ว่า เราควรไปขึ้นที่สถานีไหนเพื่อที่จะไปสถานีปลายทางที่เราต้องการ จะโหลดที่ลอนดอน หรือที่ไทยก็ได้ ตามสะดวกเลยค่ะ
จากที่เคยบอกไปแล้วว่า เราซื้อ sim card จากไทย แต่ใช้ไม่ได้ เลยไปซื้อใหม่ที่โน้น มันมีให้เลือกซื้อจากตู้ กับซื้อตามร้าน เราเลือกซื้อตามร้าน แล้วให้เขาติดตั้งให้เลยค่ะ ที่สนามบินมี เดินไปตามทางที่บอกว่าไป underground แล้วจะเจอค่ะ (ลืมถ่ายรูปร้านซื้อ sim card อีกแล้วค่ะ)
Sim card ที่ซื้อจากสนามบิน Heathrow |
ตู้หยอดเหรียญซื้อ SIM CARD |
วงแดงๆ คือหน้าตา App ที่เราใช้ค่ะ โหลดฟรีค่ะ |
หลังจากเจรจากับคุณลุง ตม.เสร็จแล้ว เราก็มุ่งหน้าหาตู้ซื้อตั๋วรถไฟไปที่พักกันค่ะ หาง่ายๆ ถามคนแถวนั้นเลย 555++ อย่าไปกลัวค่ะ มาคนเดียวทั้งที อยากทำไรทำ อยากพูดภาษาอังกฤษก็พูดไปเลย ผิดๆ ถูกๆ ก็พูดไปเลยค่ะ เขาพยายามช่วยเรา เราก็ต้องพยายามพูดคุยค่ะ หรือถ้าไม่อยากคุยก็เดินตามทางป้ายบอกไป underground ค่ะ
พอเจอตู้ขายตั๋ว อย่าเพิ่งตกใจค่ะ เราเลือกว่าเราจะซื้อเองกับตู้ หรือจะให้เจ้าหน้าที่ประจำตู้ซื้อให้!!! แน่นอนว่าเราเลือกเจ้าหน้าที่ 555 พุ่งตรงไปยังเจ้าหน้าที่ พูดไปเลยว่าต้องการไปสถานีไหน เขาก็แค่ถามว่า เอาตั๋วไปกลับ หรือตั๋วเที่ยวเดียว
พอเจอตู้ขายตั๋ว อย่าเพิ่งตกใจค่ะ เราเลือกว่าเราจะซื้อเองกับตู้ หรือจะให้เจ้าหน้าที่ประจำตู้ซื้อให้!!! แน่นอนว่าเราเลือกเจ้าหน้าที่ 555 พุ่งตรงไปยังเจ้าหน้าที่ พูดไปเลยว่าต้องการไปสถานีไหน เขาก็แค่ถามว่า เอาตั๋วไปกลับ หรือตั๋วเที่ยวเดียว
***ตอนแรกที่เราหาข้อมูล เราก็สงสัยทำไมรีวิวสนามบินฮีทโทรว ถึงไม่ค่อยมี แล้วเราก็กลัวหลงสนามบินมาก แต่พอไปเองก็เข้าใจแล้วว่า ทุกอย่างเดินง่าย หาง่ายค่ะ ป้ายมีบอกทุกระยะการเดินทาง ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด
เมื่อได้ตั๋วแล้ว เราก็เปิด Tube map ที่โหลดมาไว้ใน iPhone อันน้อยๆของเรา ^^ แล้วกดค้นหา King's cross เพื่อดูว่ารถไฟสายสีอะไรผ่านค่ะ
กดค้นหาด้านบนที่มีแว่นขยาย |
จาก Heathrow terminal2 มีแค่สายสีน้ำเงิน (Piccadilly line) ที่ผ่าน เราก็ไปค้นหาว่าสถานี King's cross มีสายสีน้ำเงินผ่านค่ะ นั่งยาวไปเลยค่ะ |
ตัวดููดเงินเลยค่ะ เข้าไปแป๊ปเดียว หมดไป £41.50!!! อยู่ชั้น 1 (ชั้น 1 บ้านเรา ชั้น Ground บ้านเขานะคะ อย่างง) |
King's cross station to Clink 261 [24/01/2017]
นั่งมาประมาณ 15นาที เราก็เดินตามเขามาละค่ะ พอถึงตรงที่ต้องสอดบัตร เราก็ชั่งใจนิดนึง ว่าทางนี้แน่นะ (คุยกับตัวเองแพ๊พ!!!) เราเลยเลือกทางที่ไป King's cross ที่ไม่ใช่ international อะ แล้วก็ออกมาอย่างง่ายดาย
ต่อไปคือมุ่งสู่ที่พัก ที่จองไว้คืนแรก Clink 261
ง่ายๆค่ะ เราจองผ่าน Agoda เราก็เปิด Agoda app สิคะ 555++ ตามด้วยการกดเดินตาม Google map
แบบนี้ละค่ะทุกคน ที่เราทำ^^ แล้วก็ preview เดินตามมันไป |
เดินถึงที่พัก ก็ Check in เอาของไปเก็บแป๊ปนึง แล้วออกมาซื้อน้ำกินราคา 75p แล้วก็กลับมานอน เก็บแรงเพื่อวันรุ่งขึ้น ^^
***คนในลอนดอนจะมาจากต่างที่ ต่างสัญชาติเยอะมาก วุ่นวายมากเช่นกัน
การเดินทางเริ่มขึ้นแล้วค่ะ
25/01/2017 - 4/02/2017
![]() |
UK map |
UK VISA เราสามารถเข้าได้ คือ England Scotland Wales and Northern Ireland นะคะ เราเลือกไปแค่ England and Scotland ค่ะ
สิ่งสำคัญ
1. Passport
2. เงิน
3. บัตรเครดิตที่ใช้จองตั๋วรถไฟกับโรงแรม
4. บันทึก Code หรือ Booking Ref. ที่ได้จากการจองตั๋วรถไฟ ลักษณะจะเป็นแบบนี้ "Your booking reference is 2267012551" ประมาณนี้ค่ะ
ที่เหลือก็จัดตามสะดวกค่ะ
การเดินทางของเรา
เราต้องบอกไว้ ณ ที่นี้นะคะ ว่าเราเดินทางแบบตามใจตัวเอง อยากไปตรงไหน ก็เดินไป เดินไปเรื่อยๆ 555++
25 Jan 2017 York
26 Jan 2017 Edinburgh
27-29Jan 2017 Joined with Rabbie's Tour, Isle of Sky 3Days
30 Jan 2017 Windermere
31 Jan 2017 London
1 Feb 2017 Joined with Evan Evans Tour
2-4 Feb 2017 Around London
25 Jan 2017
London King Cross to York
ในตั๋วจะบอกที่นั่งและตู้ คือ Coast C and Seat 69 ตั๋วเดินทางรอบนี้มี 1 ใบค่ะ |
Self-service ticket
(เราต้องขอโทษที่ลืมถ่ายขั้นตอน แต่ขอบอกเลยค่ะว่าง่ายค่ะ ที่อังกฤษไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ)
(เราต้องขอโทษที่ลืมถ่ายขั้นตอน แต่ขอบอกเลยค่ะว่าง่ายค่ะ ที่อังกฤษไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ)
1. หยิบ Credit card ที่ใช้จองตั๋ว
2. กดที่รับตัวเอง เสียบ Credit card ทำตามขั้นตอนเลย
3. ใส่ Booking Ref.
4. ตั๋วก็จะหล่นลงมาค่ะ ^^
เมื่อมีตั๋วแล้วเราก็ต้องหาว่าเราจะไปขึ้นที่ไหน เราก็เดินมาดูป้ายค่ะ!!! ว่าเราต้องไป Platform ไหน ของเราตอนนั้น Platform ยังไม่แจ้ง แต่แจ้งแค่ว่ารถไฟที่เราจะไปตรงเวลาค่ะ (On time 7.08am.) เราเลยต้องนั่งรอ ป้ายจะโชว์ว่าเราไปขึ้น Platform ที่เท่าไหร่ก่อนเวลารถไฟออก 10 นาทีเท่านั่น!!! เปิดปุ๊บ วิ่งนะคะวิ่ง Coast C คือหัวรถไฟนะคะ แล้วตอนมันจอดคือท้ายขบวนนะคะ วิ่งค่ะ จาก M ไป C ยาวแค่ไหนถามใจเธอดู!!! แล้วที่นี้ ถ้ารถไฟปิด คือปิดเลยนะ ไม่เหมือนไทยที่แบบถ้าติดอะไรก็จะเปิดใหม่ แต่ที่อังกฤษ ปิดคือปิด!!!
***การขึ้นรถไฟ ถ้าไม่ทันก็ให้ขึ้นก่อนเลย แล้วไปเดินต่อที่ในรถไฟ แต่ห้ามขึ้นชั้น First class นะคะ มันล็อคประตูที่เดินเชื่อม
เมื่อมีตั๋วแล้วเราก็ต้องหาว่าเราจะไปขึ้นที่ไหน เราก็เดินมาดูป้ายค่ะ!!! ว่าเราต้องไป Platform ไหน ของเราตอนนั้น Platform ยังไม่แจ้ง แต่แจ้งแค่ว่ารถไฟที่เราจะไปตรงเวลาค่ะ (On time 7.08am.) เราเลยต้องนั่งรอ ป้ายจะโชว์ว่าเราไปขึ้น Platform ที่เท่าไหร่ก่อนเวลารถไฟออก 10 นาทีเท่านั่น!!! เปิดปุ๊บ วิ่งนะคะวิ่ง Coast C คือหัวรถไฟนะคะ แล้วตอนมันจอดคือท้ายขบวนนะคะ วิ่งค่ะ จาก M ไป C ยาวแค่ไหนถามใจเธอดู!!! แล้วที่นี้ ถ้ารถไฟปิด คือปิดเลยนะ ไม่เหมือนไทยที่แบบถ้าติดอะไรก็จะเปิดใหม่ แต่ที่อังกฤษ ปิดคือปิด!!!
***การขึ้นรถไฟ ถ้าไม่ทันก็ให้ขึ้นก่อนเลย แล้วไปเดินต่อที่ในรถไฟ แต่ห้ามขึ้นชั้น First class นะคะ มันล็อคประตูที่เดินเชื่อม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น