เที่ยวอังกฤษคนเดียว 11วัน in York (11Days in UK)

เที่ยวอังกฤษคนเดียว 11วัน (11Days in UK)

เที่ยวอังกฤษคนเดียว 11วัน (11Days in UK)

Eilean Donan Castle
Joined with Rabbie's Tour (Isle of sky, 3Day)

Part 1 การเตรียมตัว เดินทางไป UK http://ssrinuanchat.blogspot.com/2017/02/blog-post.html

Part 2 การยื่นวีซ่า และจองที่พัก จะมีบอกราคาที่เราจองในตอนนั้นด้วยค่ะ http://ssrinuanchat.blogspot.com/2017/02/visa-uk.html

รูปภาพอาจจะไม่ละเอียด เพราะเวลาเราไปเที่ยวไหน เราจะถ่ายรูปน้อยมาก จะใช้แค่ตามองและจำสถานที่ต่างๆที่เดินทางไป ^^ มันเลยติดนิสัย ไม่ค่อยหยิบกล้องมาถ่ายค่ะ 

ขอโทษสำหรับคนที่อ่านแล้วเห็นภาพไม่ชัดเจนนะคะ รอบหน้าไปเที่ยว จะปรับปรุงตัวเองค่ะ

  ฮัลโหล!!!! มาละจ้าาา (ไม่รู้มีใครอยากอ่านมั้ย 555++) พาร์ทนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ และการเดินทางใน United Kingdom 11 วันนะคะ(เต็มยศเลย555) เราจะเริ่มตั้งแต่ สนบ.สุวรรณภูมิเลยละกัน 

Let's go......

EVA Airline , direct flight
BKK to LHR ขึ้นเครื่องเวลาไทย 13.05น. ถึงโน้นเวลาลอนดอน  19.20น.

***บนเครื่องแจกอาหาร 2 มื้อค่ะ ขึ้นเครื่อง 1มื้อแล้วก็ก่อนลงอีก 1มื้อค่ะ ส่วนเครื่องดื่มและขนม ก็จะมีมาแจกเรื่อยๆค่ะ
สิ่งของที่ต้องนำขึ้นเครื่อง 

1. Passport (เราเอาเล่มที่หมดอายุไปด้วย 1เล่มค่ะ)
2. กระเป๋าใบเล็ก 1ใบ (ไม่เกิน 7 กิโลกรัม และไม่มีของเหลวกับครีม)

3. ใบการจองที่พักทุกที่พักที่เราไปนอน

4. ใบรับรองการทำงาน

5. ยาประจำตัว (ควรมีภาษาอังกฤษ ป้องกันการตรวจดูของทางสนามบิน Heathrow)

6. Power bang ไม่เกิน 32,000 mAh รวมสายชาร์ตทุกชนิดที่มี เพราะบนเครื่องมีให้ชาร์ตค่ะ

7. ปากกา

8. กล้องทุกชนิด
9. Email ที่ยืนยันการจองตั๋วเครื่องบิน
10. สมุดโน๊ตพร้อมบันทึกการใช้จ่าย หรืออะไรก็ได้ที่อยากเขียน แต่เราบันทึกใส่โทรศัพท์ค่ะ
11. เสื้อกันหนาว ถึงแม้ว่าบนเครื่องจะมีผ้าห่มกับหมอนให้ แต่ควรมีเสื้อกันหนาวไปค่ะ (ไม่ใช่เสื้อโค้ช)

***บางข้อ คุณอาจจะรู้อยู่แล้ว แต่เชื่อมั้ย เวลาไป Check in ที่ สนบ.จะมีเหตุการณ์ คือเอาPower Bang และกล้องใส่กระเป๋าสำหรับโหลดทุกครั้ง อันนี้คือมาเตือนอีกทีค่ะ

กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง
1. ควรมีถุงแยกผ้าเล็กๆเพื่อความสะดวกในการรื้อของ แล้วก็จัดแยกประเภทเสื้อผ้าไปเลย
2. ของเหลวควรมีถุงอีกชั้นเพื่อกันแตก หรือป้องกันการไหลออกมาจากขวด เพราะใต้เครื่องมีแรงดัน อาจจะทำให้ครีมทะลักออกมาเปื้อนกับเสื้อผ้าค่ะ

ที่เหลือก็จัดตามที่เราถนัดและควรจำด้วยว่าอะไรอยู่ตรงไหน (เพราะกระเป๋าเราคือเป้แบ็คแพ็ค) จะได้หยิบสะดวกค่ะ

อยู่บนเครื่อง 12ชม. ก็หาอะไรบรรเทิงไปค่ะ ^^ มีที่ชาร์ตแบบ USB ให้นะคะ

รายละเอียดตั๋วเครื่องบิน

Bangkok to London
Flight 1	Tuesday, January 24, 2017
Confirmed	Departure: 13:05 Bangkok, Thailand - Suvarnabhumi International Arrival: 19:20 London, United Kingdom - Heathrow, terminal 2 Airline: EVA Air BR 67 Duration: 13:15 Aircraft: Boeing 777-300ER Fare type/Cabin: ECO Special/Economy Class Booking Class: V Adult/Child Baggage 30 kilogram(s) per traveler

London to Bangkok
Flight 1	Saturday, February 04, 2017
Confirmed	Departure: 21:20 London, United Kingdom - Heathrow, terminal 2 Arrival: 15:45 +1 day(s)   Bangkok, Thailand - Suvarnabhumi International Airline: EVA Air BR 68 Duration: 11:25 Aircraft: Boeing 777-300ER Fare type/Cabin: ECO Saver/Economy Class Booking Class: W Adult/Child Baggage 30 kilogram(s) per traveler

สนามบินสุวรรณภูมิ

- ควรไปถึงสนามบินก่อน 3ชั่วโมงก่อนเดินทาง เผื่อเวลาฉุกเฉิน หรือจะช้อปปิ้งในเกทค่ะ 

- น้ำหนักกระเป๋า เราได้ 30 กิโลกรัม แต่กระเป๋าเราแค่ 17.3 กิโลกรัมเอง

ที่เหลือก็ Check in ตามปกติค่ะ แต่พอเข้าเกทไป มันไม่ปกติค่ะ เขาแจ้งเปลี่ยนเกท!!!! เราก็วิ่งไปหาเกทใหม่ และก็ทันเวลา เพราะว่าเรามาก่อน 3ชม เวลาเราเหลือค่ะ

      สถานการณ์บนเครื่องบิน ไม่น่ากลัวค่ะ อากาศแจ่มใส แต่มีหนาวนะคะ นั่งๆนอนๆไป 12 ชม. นอนก็ไม่ค่อยหลับ ตื่นเต้นไง 555

Menu อาหารบนเครื่อง มี 2แบบให้เลือกเราก็เลือกทั้ง 2แบบ ที่เห็นภาษาจีน เพราะ EVA เป็นสายการบินสัญชาติไต้หวันค่ะ

UK Border มีความสำคัญ ห้ามลืมกรอกนะค่ะ!!! จะแจกตอนเครื่องจะลง หรือตอนเราขึ้นเครื่องเลยค่ะ กรอกทุกอย่างตามจริง ถ้าใครทำหายบนเครื่องหรือหาไม่เจอ ก่อนที่จะเจอ ตม. เขาจะมีแจก รีบไปคว้ามาเขียนนะคะ จะไม่มีใบให้กรอกแบบเข้าญี่ปุ่น หรือเกาหลีนะ ในส่วนของที่อยู่ เขาขอแบบ Full เราก็ควรจัดให้เขาแบบ Full เช่นกัน เขียนไปค่ะ ไปพักที่ไหนบ้าง เราเขียนตัวเล็กมาก 

เราเขียนแบบ คือ 24-25 Jan17 Clink261 , 25-27 Jan17 Royal mile backpacker , 27-29Jan17 Joined with Rabbie's tour , 29Jan17 Royal mile backpacker , 30-31 Jan17 YHA Ambleside , 31Jan17-4Feb17 Clink 261 เราเขียนเต็มแบบนี้จริงๆค่ะ ^^

    

UK Border , Landing card รูปภาพไปเอามาจากเว็บค่ะ

สนามบินฮีทโทรว (Heathrow airport)

ถึงละค่ะอังกฤษ #อิ้งแลนด์แดนมหัศจรรย์ เตรียม Passport และ Landing card ค่ะก่อนเลยค่ะ อย่างอื่นเก็บในกระเป๋าก่อนนะ อย่าเพิ่งโชว์ ค่อยโชว์ตอนเขาขอดูนะคะ แล้วก็รีบไปให้ถึง ตม. ก่อน คนจะได้ไม่เยอะ และจะบอกว่ารีบไปก่อนดีกว่าค่ะ ตม. ถามเราน้อยมากจริงๆค่ะ พอหลังจากเรา คนเริ่มเยอะ ตม. เริ่มถามเยอะค่ะ อันนี้เอาความรู้สึก ณ ตอนนั้นมาบอก

ด่านตรวจคนเข้าเมืองสหราช (UK immigration)

Passport กับ Landing card พร้อมค่ะ เข้าไปเลยเดินไปอย่างมุ่งมั่น คิดไว้ในใจเสมอว่า ต้องผ่าน อยากเที่ยว อย่าถามเยอะ 555++ เราเจอกับ ตม.แก่ๆคนนึง ดูหน้าดุมาก แล้วมองเราลอดผ่านแว่นตาแว้ปนึง แล้วเขาก็มองที่ Landing card ที่เราเขียนแว้ปนึง แล้วก็มองเราอีกรอบพร้อมคำถาม
ตม. : Travelling alone?
เรา : Yes!!!
ตม. : Do you have flight to go back? (น่าจะประมาณนี้นะ)
เรา : Yes,Sure
ตม. : Let me look
เรา : หยิบ Email ที่จองตั๋วมาค่ะ *ย้ำนะคะว่า เขาขอดูอะไรหยิบอันนั้น อย่ากองรวมให้เขาหาค่ะ*
ตม. : เขาก็เช็คไฟท์บินกลับของเรา
ตม. :What dose is mean your work? คือเราเขียนว่า Local Merchandise
เรา : Like a pusrchase in Thailand (ดูคำตอบซะก่อน 555++ บ่งบอกถึงภาษาที่อ่อนแอ)
ตม. : Ok, I don't understand your work แล้วก็ปั้ม ผ่านค่ะ ดีใจมากค่ะ!!!! กรี๊ดได้กรี๊ดไปแล้ว 555++

King's cross Station

หา Sim card
จากที่เคยบอกไปแล้วว่า เราซื้อ sim card จากไทย แต่ใช้ไม่ได้ เลยไปซื้อใหม่ที่โน้น มันมีให้เลือกซื้อจากตู้ กับซื้อตามร้าน เราเลือกซื้อตามร้าน แล้วให้เขาติดตั้งให้เลยค่ะ ที่สนามบินมี เดินไปตามทางที่บอกว่าไป underground แล้วจะเจอค่ะ (ลืมถ่ายรูปร้านซื้อ sim card อีกแล้วค่ะ)

Sim card ที่ซื้อจากสนามบิน Heathrow

ตู้หยอดเหรียญซื้อ SIM CARD

ซื้อ Sim card เสร็จแล้ว เราแนะนำให้โหลด Tube map app เพื่อช่วยให้การเดินทางในลอนดอนง่ายขึ้นหรือให้เรารู้ว่า เราควรไปขึ้นที่สถานีไหนเพื่อที่จะไปสถานีปลายทางที่เราต้องการ จะโหลดที่ลอนดอน หรือที่ไทยก็ได้ ตามสะดวกเลยค่ะ

วงแดงๆ คือหน้าตา App ที่เราใช้ค่ะ โหลดฟรีค่ะ

ใน App ก็จะมีแผนที่แบบนี้ แล้วก็สามารถค้นหาสถานีได้ด้วยค่ะ

Heathrow terminal 2 to King's cross station 

หลังจากเจรจากับคุณลุง ตม.เสร็จแล้ว เราก็มุ่งหน้าหาตู้ซื้อตั๋วรถไฟไปที่พักกันค่ะ หาง่ายๆ ถามคนแถวนั้นเลย 555++ อย่าไปกลัวค่ะ มาคนเดียวทั้งที อยากทำไรทำ อยากพูดภาษาอังกฤษก็พูดไปเลย ผิดๆ ถูกๆ ก็พูดไปเลยค่ะ เขาพยายามช่วยเรา เราก็ต้องพยายามพูดคุยค่ะ หรือถ้าไม่อยากคุยก็เดินตามทางป้ายบอกไป underground ค่ะ

พอเจอตู้ขายตั๋ว อย่าเพิ่งตกใจค่ะ เราเลือกว่าเราจะซื้อเองกับตู้ หรือจะให้เจ้าหน้าที่ประจำตู้ซื้อให้!!! แน่นอนว่าเราเลือกเจ้าหน้าที่ 555 พุ่งตรงไปยังเจ้าหน้าที่ พูดไปเลยว่าต้องการไปสถานีไหน เขาก็แค่ถามว่า เอาตั๋วไปกลับ หรือตั๋วเที่ยวเดียว

***ตอนแรกที่เราหาข้อมูล เราก็สงสัยทำไมรีวิวสนามบินฮีทโทรว ถึงไม่ค่อยมี แล้วเราก็กลัวหลงสนามบินมาก แต่พอไปเองก็เข้าใจแล้วว่า ทุกอย่างเดินง่าย หาง่ายค่ะ ป้ายมีบอกทุกระยะการเดินทาง ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด 

     

One way ticket from Heathrow2 to King's cross , £6

เมื่อได้ตั๋วแล้ว เราก็เปิด Tube map ที่โหลดมาไว้ใน iPhone อันน้อยๆของเรา ^^ แล้วกดค้นหา King's cross เพื่อดูว่ารถไฟสายสีอะไรผ่านค่ะ

กดค้นหาด้านบนที่มีแว่นขยาย

จาก Heathrow terminal2 มีแค่สายสีน้ำเงิน (Piccadilly line) ที่ผ่าน เราก็ไปค้นหาว่าสถานี King's cross มีสายสีน้ำเงินผ่านค่ะ นั่งยาวไปเลยค่ะ

ตัวดููดเงินเลยค่ะ เข้าไปแป๊ปเดียว หมดไป £41.50!!! อยู่ชั้น 1 (ชั้น 1 บ้านเรา ชั้น Ground บ้านเขานะคะ อย่างง)

King's cross station to Clink 261 [24/01/2017]

นั่งมาประมาณ 15นาที เราก็เดินตามเขามาละค่ะ พอถึงตรงที่ต้องสอดบัตร เราก็ชั่งใจนิดนึง ว่าทางนี้แน่นะ (คุยกับตัวเองแพ๊พ!!!) เราเลยเลือกทางที่ไป King's cross ที่ไม่ใช่ international อะ แล้วก็ออกมาอย่างง่ายดาย 

ต่อไปคือมุ่งสู่ที่พัก ที่จองไว้คืนแรก Clink 261 

ง่ายๆค่ะ เราจองผ่าน Agoda เราก็เปิด Agoda app สิคะ 555++ ตามด้วยการกดเดินตาม Google map

แบบนี้ละค่ะทุกคน ที่เราทำ^^ แล้วก็ preview เดินตามมันไป 

เดินถึงที่พัก ก็ Check in เอาของไปเก็บแป๊ปนึง แล้วออกมาซื้อน้ำกินราคา 75p แล้วก็กลับมานอน เก็บแรงเพื่อวันรุ่งขึ้น ^^

***คนในลอนดอนจะมาจากต่างที่ ต่างสัญชาติเยอะมาก วุ่นวายมากเช่นกัน 

การเดินทางเริ่มขึ้นแล้วค่ะ

 25/01/2017 - 4/02/2017

UK map

UK VISA เราสามารถเข้าได้ คือ England Scotland Wales and Northern Ireland นะคะ เราเลือกไปแค่ England and Scotland ค่ะ

สิ่งสำคัญ

1. Passport

2. เงิน

3. บัตรเครดิตที่ใช้จองตั๋วรถไฟกับโรงแรม

4. บันทึก Code หรือ Booking Ref. ที่ได้จากการจองตั๋วรถไฟ ลักษณะจะเป็นแบบนี้ "Your booking reference is 2267012551" ประมาณนี้ค่ะ

     

 ที่เหลือก็จัดตามสะดวกค่ะ

การเดินทางของเรา

เราต้องบอกไว้ ณ ที่นี้นะคะ ว่าเราเดินทางแบบตามใจตัวเอง อยากไปตรงไหน ก็เดินไป เดินไปเรื่อยๆ 555++

25 Jan 2017        York 

26 Jan 2017        Edinburgh

27-29Jan 2017   Joined with Rabbie's Tour, Isle of Sky 3Days

30 Jan 2017        Windermere

31 Jan 2017        London

1 Feb 2017         Joined with Evan Evans Tour

2-4 Feb 2017      Around London

25 Jan 2017 

London King Cross to York

ในตั๋วจะบอกที่นั่งและตู้ คือ Coast C and Seat 69
ตั๋วเดินทางรอบนี้มี 1 ใบค่ะ

 Self-service ticket
(เราต้องขอโทษที่ลืมถ่ายขั้นตอน แต่ขอบอกเลยค่ะว่าง่ายค่ะ ที่อังกฤษไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ)

1. หยิบ Credit card ที่ใช้จองตั๋ว 

2. กดที่รับตัวเอง เสียบ Credit card ทำตามขั้นตอนเลย

3. ใส่ Booking Ref.

4. ตั๋วก็จะหล่นลงมาค่ะ ^^ 

เมื่อมีตั๋วแล้วเราก็ต้องหาว่าเราจะไปขึ้นที่ไหน เราก็เดินมาดูป้ายค่ะ!!! ว่าเราต้องไป Platform ไหน ของเราตอนนั้น Platform ยังไม่แจ้ง แต่แจ้งแค่ว่ารถไฟที่เราจะไปตรงเวลาค่ะ (On time 7.08am.) เราเลยต้องนั่งรอ ป้ายจะโชว์ว่าเราไปขึ้น Platform ที่เท่าไหร่ก่อนเวลารถไฟออก 10 นาทีเท่านั่น!!! เปิดปุ๊บ วิ่งนะคะวิ่ง Coast C คือหัวรถไฟนะคะ แล้วตอนมันจอดคือท้ายขบวนนะคะ วิ่งค่ะ จาก M ไป C ยาวแค่ไหนถามใจเธอดู!!! แล้วที่นี้ ถ้ารถไฟปิด คือปิดเลยนะ ไม่เหมือนไทยที่แบบถ้าติดอะไรก็จะเปิดใหม่ แต่ที่อังกฤษ ปิดคือปิด!!!

 ***การขึ้นรถไฟ ถ้าไม่ทันก็ให้ขึ้นก่อนเลย แล้วไปเดินต่อที่ในรถไฟ แต่ห้ามขึ้นชั้น First class นะคะ มันล็อคประตูที่เดินเชื่อม

ตารางรถไฟที่ King's cross station

หลังจากนี้เราจะทำแยกแต่ละวันค่ะ เพราะมันเยอะ เดี่ยวมันจะเลื่อนเยอะ เมื้อยมือ^^
 York

ยื่นวีซ่า (Visa UK) และจองทุกอย่างที่เลือกไว้

Joined with Rabbie's Tour (Isle of sky, 3Day)

ฮัลโลลลลลล !!! มาต่อละคะ เยอะแยะจริงๆ ค่ะ

ยื่น VISA UK
1. บัญชีที่เดิน Statement เป็นของธนาคารออมสิน ให้ทางธนาคารออกใบรับรองการเงินให้เลย เป็นภาษาอังกฤษ จ่ายเงินไป 100 บาท เงินที่ใช้ยื่น 120,000 บาท (เราเริ่มเก็บตั้งแต่ 29/12/2557) และมีพี่สาวมาช่วยตอน 6 เดือนสุดท้ายด้วย ขอบคุณคร้าบพี่สาว
2. บัญชีที่เงินเดือนเข้า ให้ขอ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน  เป็นภาษาอังกฤษ จ่าย 100 บาท
3. หนังสือรับรองการทำงาน ระบุเงินเดือน ระยะเวลาการทำงาน ตำแหน่ง และวันที่ลางานไปเที่ยว เป็นภาษาอังกฤษ
4. แพลนที่เราจะไป ว่าไปที่ไหนบ้าง ภาษาอังกฤษ (มีไทยนิดหน่อย)
5. จดหมายแนะนำตัว ว่าทำไม่ถึงอยากไปเที่ยวอังกฤษ  เป็นภาษาอังกฤษ
6. Email ที่ยืนยันการจองที่พัก ทั้งหมดที่เราไปพัก (โดยส่วนใหญ่เราจองแบบ ยกเลิกฟรีไปก่อน)
7. Email การจองทัวร์ (เราเอาแค่ Rabbie's Tour)
8. สำเนาทะเบียนบ้าน เราไม่แปล
9. Passport เรามี 2 เล่ม เพราะมันหมดอายุ
10. ตั๋วเครื่องบิน เราให้ทางเอเจ่นออกให้ก่อน เสียค่าออกให้ 250 บาท เพื่อใช้ยื่นวีซ่า (จัดส่งทาง Email)

***รูปถ่าย ไม่ต้องนะคะ เขาถ่ายให้ที่โน้น

ต้องไปยื่นเองนะคะ เพราะมีสแกนนิ้ว และไม่มีสัมภาษณ์ ใช้เวลาไม่นาน และเราเลือกที่จะมารับเอง และสมัครข้อความว่าให้เขาส่งมาให้ว่าทำถึงขั้นตอนไหนแล้ว(อันนี้เสียตังค์ ไม่ถึง100) แต่ปกติทางกรมเขาจะมี Email มาแจ้งอยู่แล้ว เราแค่เพื่อความสบายใจ อยากได้ข้อความอีก 555++

นั่งนับไป 5 วันทำการหลังการยื่น ในนั้นบอก 15วันทำการ ของเรา 5วันทำการจริงๆ
เช่น ยื่นวันศุกร์ และศุกร์ถัดไป คือรับเล่ม

ตอนรับเล่ม เปิดออกมาปุ๊บ ไม่รู้เรื่องแค่มีกระดาษที่มีรูปถ่ายเราแปะมา เราก็งง ตกลงเราผ่านป่าววะ ถามคนแถวนั่น คือผ่านค่ะ ดีใจมากเว่อร์ เขาบอกว่าถ้าคนไม่ผ่าน จะไม่ติดรายละเอียดที่มีรูปถ่ายเรามา จะมีแค่โน๊ตแปะมาเหมือนแจ้งว่าเราไม่ผ่านเพราะอะไรค่ะ

รับเล่ม VISA ละ ต่อไปคือ จองทุกสิ่งอันที่เลือกไว้แล้ว

***การได้ UK VISA เราสามารถเข้าได้ 4 ประเทศ คือ England Scotland Wales and Northern Ireland ค่ะ ส่วน South Ireland ไม่สามารถเข้าได้ค่ะ ถ้าจะไปก็ขอ VISA เพิ่มจ้ะ

เราเลือกไปแค่ England and Scotland แต่จะค่อนข้างหนักไปทาง Scotland มากกว่า เพราะคิดแล้วว่า 11 วันคงไม่พอกับการเดินทางไปทั้ง 4 ประเทศ 555++ (คงต้องลาออกจากงานค่ะ ^^)

***อย่าลืมทำประกันการเดินทางท่องเที่ยวนะคะ เราทำกับตัวแทนประกันของเราเอง ให้เขาจัดการให้ค่ะ จ่ายไป 1,906 บาทค่ะ แนะนำให้ทำค่ะ 

แพลนที่เราวางเอง อยากได้ไฟล์ที่ชัดกว่านี้ ขอได้นะ 555++

จอง ตั๋วเครื่องบิน (Air ticket )

เราเลือก EVA airline บินบ่าย ตามเวลาไทย ถึง Heatthrow ทุ่มกว่า ตามเวลา London 

ขั้นตอนการจอง 

1. เข้า https://www.evaair.com/en-global/index.html

     1.1 อย่าลืมดู Promotion นะ ให้หา คำว่า "Bank Discount" มันเป็นสำหรับ Credit card ของกรุงศรี ลดเพิ่มจากตั๋วอีก 5% แล้วกดเข้าไป คือเราจองผ่านบัตร แล้วเอาเงินไปจ่ายกับบัตร
     1.2 ใส่รายละเอียด สนามบินที่ไป วันที่ที่ไป ของเราก็ 24/01/2017 - 04/02/2017
     1.3 แล้วก็กรอกรายละเอียดของบัตรไป 
     1.4 จองเสร็จ จะมี Email ยืนยันการจอง (ปริ้นออกมาเก็บไว้ค่ะ แล้วตอนบินไป ให้ติดตัวไว้ เผื่อ ตม.ถามค่ะ
***เราได้กระเป๋า น้ำหนัก 30กิโลกรัมค่ะ
Note :
 เกี่ยวกับการจองด้วยบัตรเครดิต  เขามีกฏระเบียบอย่างไรบ้าง เช่น
- ถ้าบัตรเครดิตที่ใช้จอง กับผู้โดยสาร ชื่อหน้าบัตร กับผู้โดยสาร คนละชื่อกัน ต้องมีหนังสือรับรองการใช้บัตรมั้ย หรือต้องให้เจ้าของบัตรไป modify ตั๋วให้อีกทีที่เคาว์เตอร์รึป่าว (เราเคยเจอค่ะ)
- ถ้าบัตรเครดิตมีคะแนนเยอะ ให้ลองคำนวณและแลกคะแนน เพื่อเป็นส่วนลดในการซื้อตั๋วเครื่องบิน โดยการโทรไปถามสายการบินที่เราจะใช้บริการก่อน ว่าเข้าร่วมกับบัตรอะไรได้บ้าง แล้วค่อยโทรหาเรื่องบัตรเครดิต

ขาไปนั่งติดหน้าต่างและติดปีก!! แต่เห็นวิวด้านล่างเป็นแบบภูเขาหิมะ สวยมากค่ะ

National Monument of Scotland #nofilter

รถไฟ ไปตามเมืองที่เราต้องการ
เราได้เขียนไว้แล้วในส่วนของการจองรถไฟ อยู่ด้านล่างของหน้าเว็บที่ลิ้งไปค่ะ และรายละเอียดที่เราเดินทาง

24 Jan 2017
จาก Heatthrow terminal 2 to King's cross (One way ticket) £6
เดินทาง ถึง Hearthrow ประมาณ 19.30 น. และกว่าเดินมาถึง ตม. และผ่าน ตม. ได้ก็ประมาณ 20.00น.
จองตั๋วที่ สนบ. เลยค่ะ อันนี้ไม่ได้จองออนไลน์ เพราะว่าไม่รู้เราจะได้ออกมากี่โมง กลัวไม่ทันเวลา

25 Jan 2017
เช้า จาก London King's cross to York (Book online)
       เวลา 7.08น. - 9.25น. ราคา £14 = 633.59 บาท
เย็น จาก  York to Edinburgh (Book online)
       เวลา 17.32น. - 20.09น. ราคา £15.80 = 715.06 บาท

26 Jan 2017 เราเดินรอบๆตัวเมือง Edinburgh และเดินหา Rabbie's Tour ที่เราจองไว้ ว่าออฟฟิศอยู่ตรงไหนเพื่อความพร้อมในวันรุ่งขึ้น

27 - 29 Jan 2017
        Isle of Sky 3Day by Rabbie's Tour ราคา £121.38 = 5,580.17 (Book online)
        https://www.rabbies.com/en

30 Jan 2017
 Edinburgh to Oxenholme (Book online)
        เวลา 6.15น - 8.12น. ราคา £9.50 = 431.30บาท
Oxenholme to Windermere (Book online)
        เวลา 9.11น. - 9.31น. ราคา £5.50 = 249.70บาท
***การเดินทางไป windermere มีการเปลี่ยรถไฟ เราเลยจองแยกค่ะ เพราะเช็คแล้ว จองแยก ถูกกว่าจองแบบตรง
***วันนี้เป็นวันที่เราจองรถไฟกรณีฉุกเฉินด้วย เพราะว่าเราป่วยตอนดึก เราเลยนอนยาวไปเลยตื่นเมื่อไหร่ก็ออกละกัน ขอให้แข็งแรงก่อน แล้วลุยต่อค่ะ โดยเราดูตั๋วจากที่พักก่อนไปจองที่สถานีค่ะ มีราคาตั๋วที่ยังพอรับได้เลยอุ่นใจ แต่ถ้าเกิน £40 เมื่อไหร่ คงต้องนั่งรถบัสกลับ London คืนที่ 30 แน่ๆ
จองใหม่ 
Edinburgh to Oxenholme (At station) 
        เดี๋ยวมาบอกเวลาค่ะ หาตั๋วก่อน ราคา £31.50
Oxenholme to Windermere (At station) 
       เดี๋ยวมาบอกเวลาค่ะ หาตั๋วก่อน ราคา £5.99

31 Jan 2017
Windermere to London Euston
        เวลา 18.03น. - 21.25น. ราคา £23 = 1,059.99บาท

1 Feb 2017
        Evan Evans Tour 1Day มีไป Windsor Stonehenge and Baths รวมค่าเข้าละ £97 = 4,362.32 บาท

2 - 4 Feb 2017 อยู่ใน London เลยเดินตาม Land mark ค่ะ

Oxenholme Station รอรถไฟไป Windermere ค่ะ

Passenger lounge at Oxenholme Station  ห้องพัก ผดส. ลองหาดูนะคะ มีเกือบทุกสถานี เราไปช่วงหนาว มันมีประโยชร์กับเราจริงๆ 

จองตั๋วรถไฟแบบแยก ความหมายของเราคือ

เราออกจาก Edinburgh ไป Windermere เราดูแล้วว่ามันไม่มีแบบ Direct มันจะมีต้องเปลี่ยนรถไฟที่สถานี Oxenholme เราเลยลองกดจองแบบ

1. Edinburgh to Windermere ค่าตั๋วตอนนั้นคือ £25 มันแพงอยู่นะ เลยลองจองแบบแยก

2. Edinburgh to Oxenholme ค่าตั๋วอยู่ที่ £9.50 และจองต่อจาก

    Oxenholme to Windermere ค่าตั๋วอยู่ที่ £5.50 มันถูกกว่าเยอะมากกกกก

เว็บไซด์จองรถบัส หรือจะไปจองที่สถานีเลยก็ได้ ราคาใกล้เคียงกันค่ะ
http://www.nationalexpress.com/home.aspx

เว็บไซด์นี้ก็จองรถบัสค่ะ แต่เหมือนว่าถูกกว่า ต้องไปดูค่ะ แต่ถ้าไปจองที่สถานีไม่รู้ว่าจะได้มั้ยนะคะ
https://www.megabus.com/

 Heart of Midlothian in Scotland

จอง Hostel
ตลอดทั้งทริปนี้ เราเลือกที่พักคือ Hostel ค่ะ ทุกที่พักสามารถยืมไดร์เป่าผมได้ที่ reception ค่ะ และสิ่งที่ที่พักไม่มี คือ
1. สบู่ แชมพู ครีมนวด โลชั่น ยาสีฟัน และอุปกรณ์เสริมความงามทุกชนิด
2. ผ้าเช็ดตัว (แต่มีให้เช่า £2 - £5)
*** มีผ้าห่ม มีที่นอน มีผ้าปูเตียง มีปลอกหมอน ก็ต้องปูนอนเองนะคะ***

เราเลือกจองผ่าน App Agoda ทั้งหมด และมีการบอกเส้นทางการเดินหาที่พักด้วย Appจองอื่นอาจจะมี เราไม่รู้นะ เราเลือกอันนี้ >_< (ไม่ได้ค่าโปรโมท App ด้วย 555+)

คนไทยส่วนใหญ่จะมาจับกลุ่มอยู่ที่ London กันเยอะมาก เราไป Edinburgh และ North Scotland ไม่เจอคนไทยเลยสักคน แต่มีร้านอาหารไทยที่ Windermere กับ Edinburgh

คืนแรก 24 Jan 2017

Clink 261 in London

ราคา 509.18 บาท ต่อคืน
 เราจองห้องนอนรวม หญิง ชาย 18 เตียง ไม่เอาอาหารเช้า (อาหารเช้า 7.30น - 9.00น.)
ข้างไที่พัก มี super market ไม่อดตายค่ะ 555++

http://www.popinworld.com/hotel/744/clink-261-hostel-.html
ลืมถ่ายรูปมาค่ะ ไปขโมยมาจากเว็บไซด์

คืน 25 -27 และ 29 Jan 2017

Royal mile backpacker in Edinburgh

ราคาคืนละ £11 จองออนไลน์ไปก่อน แต่ไปจ่ายตรงที่พักค่ะ

จองห้องนอนรวมหญิง ทุกอย่างดีหมดเลยค่ะ ใกล้ที่เที่ยวทุกอย่างใน Edinburgh ค่ะ ชอบมาก เงียบด้วย

ด้านล่างมีร้านอาหาร ไทย อินเดีย

หารูปตัวเองไม่เจอ ถ้าเจอเดี๋ยวมาใส่ นี้ก็ขโมยจากเว็บมาค่ะ

คืน 27 - 28 Jan 2017

SYHA Hostelling Scotland

ราคาคืนละ £15 เป็น Hostel ที่ให้ Rabbis's Tour เลือกให้ ดีค่ะ ชอบอีกแล้ว สงบดี เงียบด้วย ในพื้นที่นี้เหมือนชนบทมากๆ กลางคืนสัก 19.00น. นี้ก็เงียบแล้วนะตอนเราไปหน้าหนาวไง มันเลยมืดเร็วค่ะ

เดินออกมาถ่ายฝนตกๆ 

คนที่มาพักแถวนี้ส่วนใหญ่จะเช่ารถขับกันมาแบบหลายๆคนค่ัะ เพราะเริ่มใกล้กับ Highland, Isle of sky 

ถ่ายจากห้องนั่งเล่น และห้องกินข้าว วิวสวย เงียบ สงบมากค่ะ

คืน 30 Jan 2017

YHA Ambleside in Water head

ราคาคืนละ £11 และเรารับอาหารเช้าจ่ายเพิ่ม £5.75 (อาหารเช้าจ่ายตอนเช็คอินค่ะ)

จองห้องนอนรวมหญิง ทุกอย่างดีหมดเลยค่ะ ชอบมาก เงียบด้วย และด้านหน้าห้องก็วิวทะเลสาบ แต่ถ้าใครชอบแนวธรรมชาติ หรืออยากไปเที่ยวแบบ countryside ก็เชิญที่นี้ค่ะ ใกล้ท่าเรือ water head ด้วย

ด้านหน้าของ YHA Ambleside อันนี้ถ่ายเองค่ะ 

ที่นี่มีที่จอดรถด้วย คนส่วนใหญ่เช่ารถขับมาที่นี้กันค่ะ และคนมาพักก็จะมีคนในพื้นที่ และคนใน UK ก็นิยมมาพัก เพราะว่าสถานที่ที่ใกล้ที่นี่ก็จะมีแบบปีนเขา เดินเขา เดินป่า ปั่นจักรยาน แต่วันที่เราไปฝนตกทั้งวัน กิจกรรมเลยหยุด คนที่ม่พักก็รวมกันที่โรงแรม ส่วนคนที่อุปกรณ์พร้อม เขาก็ไปทำกิจกรรมต่อ โดยไม่แคร์สายฝนที่ตกมา 555++

YHA Ambleside's reception  อันนี้ถ่ายเองค่ะ

คืน 31 Jan 2017 - 4 Feb 2017

Clink 261 in London
กลับมาที่เดิม เพราะใกล้สถานี King's cross 

ราคา 2,536.92 บาท ราคานี้รวม 4คืนและอาหารเช้าค่ะ (อาหารเช้า 7.30น - 9.00น.)
 เราจองห้องนอนรวม หญิง ชาย 10 เตียง ขนาดห้องไม่กว้างมาก เหมาะสำหรับนอนอย่างเดียวค่ะ

เอามาจากเว็บค่ะ เรานอนห้องแบบนี้ในคืนนี้ค่ะ

จองทัวร์ 

Rabbie's Tour (£121.38 = 5,580.17B)

เราเลือกไปทัวร์เพราะว่าในบางพื้นที่ที่เราอยากไปนั้นมันไกลและมันต้องขับรถขึ้นเขา เราไม่ชำนาญทางและไม่ใช่คนในพื้นที่ เราเลยเลือกทัวร์ดีกว่าค่ะ ปลอดภัย และสะดวก ราคาก็ก็ไม่แพงค่ะ (ไม่ได้ค่ารีวิวทัวร์แต่อย่างใด 555++)

การจอง

1. เข้าเว็บไซด์  https://www.rabbies.com/en

2. เลือกแบบที่เราต้องการ

3. กรอกข้อมูล
4. ในส่วนของที่พัก เราให้ทางทัวร์เป็นคนเลือกให้ค่ะ และเขาจะมีให้เราเลือกประเภทที่พักที่เราต้องการ จะมี 3แบบด้วยกัน คือ Hostel , B&B and Hotel เราเลือกเรียงตามนี้เลยค่ะ แล้วเขาจะเลือกตามลำดับที่เราต้องการ และตามความเหมาะสมของอากาศที่นั้นด้วย เพราะที่นั้นอากาศแปรปรวนมากจริงๆ เขาเลือกให้ดีทีเดียว เราชอบมากจริงๆ แต่สำหรับคนอื่นเราไม่ทราบนะคะ 
5. แล้วก็เลือกจ่ายผ่านบัตรเครดิตค่ะ กรอกข้อมูลเหมือนซื้อของค่ะ
6. เมื่อมี Confirm Email ให้ปริ้นเก็บไว้เผื่อตอนผ่าน ตม. เผื่อเขาขอดูค่ะ และก็ใช้ยื่นในวีซ่าด้วยค่ะ

ที่นั่งในรถ กล้องก็ดี ผิดที่คนถ่าย ขอโทษคร้าาาา

ข้อกำหนดของทัวร์นี้
1. กระเป๋าไม่เกิน 15 กิโลกรัมต่อ1คน และใบเล็กติดตัว1ใบสำหรับใส่พวกกล้อง หรืออะไรที่จำเป็นเท่านั้น
2. บางพื้นที่ที่ไปจะเป็นที่ชื้นแฉะ เพราะฉะนั้นรองเท้า กับเสื้อผ้า จะต้องกันฝนได้ แต่เราไม่เอาไป เพราะ
    เราใส่เสื้อที่มี Hood และรองเท้าคู่เดียว
3. ตรงต่อเวลา
4. ไม่กินของมีกลิ่นนะคะ
5. ตอนขับรถ ของร้อนไม่ควรทานค่ะ ไม่ใช่กลัวเลอะรถ แต่มันจะหกใส่เรานะคะ
6. ทุกที่นั่ง คาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทาง ถ้าคาดไม่ได้ก็บอกไกด์เลยค่ะ กฏหมายบ้านเมืองเขาแรงค่ะ เราเคยคาดไม่ทันแล้วรถออก รถเบนซ์มันก็ดีเหลือเกิน มันล็อกเลยคาดไม่ได้ เลยต้องตะโกนจากด้านหลังไปว่า "ไอค้านซีทเบล!!!" (I can't seat belt!!!) 555++

ในการเลือกทัวร์ เราก็หาตาม google ปกติของคนหาข้อมูลละค่ะ แต่มันก็จะเจอหลายๆทัวร์ เราต้องเลือกทัวร์ที่ติดรีวิว และได้รับเครื่องที่ยอมรับเกี่ยวกับการให้บริการค่ะ เราก็จะดูที่ติดเครื่องหมายนกฮูก (อันนี้เรียกเอง 555++)  หรือ trip advisor และทัวร์นี้ติดทุกเครื่องหมาย แล้วได้รางวัล  British Travel awards 2016 เราเลยไม่ลังเล จองเลย 

Evan Evans Tour
เราเลือกทัวร์นี้ด้วยเหตุผลที่ว่า จัดตารางเที่ยวนอกเมืองหมดแล้ว เหลืออีก 3วันเที่ยว และ 1วันคือวันกลับ แต่ยังไม่ได้ไป Windsor Stonehenge and Baths เลยขอจัดทัวร์ไปเลย 1 วัน ครบ3ที่ ที่ต้องการ และทัวร์นี้เราจองออนไลน์แต่เราไปจองที่อังกฤษ เพราะเรากลัวแพลนแล้วพลาดค่ะ คล้ายๆกับ Magic coach 555++ เลยจองผ่านบัตรไป แต่เราก็คำนวณไว้แล้วว่าไม่เกิน  £100 และแล้วก็ได้มาที่ £97 = 4,362.32B!!! เริ่มตึงเลย555++ ทัวร์นี้รวมค่าเข้าทั้ง 3ที่ค่ะ แต่ไม่มีอาหารนะคะ หาซื้อเองค่ะ มีเยอะแยะตามที่เราไป ไม่ต้องกังวลค่ะ

ในส่วนของการชี้แจงราคานั้น บางที่เป็นปอนด์ บางทีเป็นบาท เพราะว่า พวกที่พัก และรถไฟ เราจองออนไลน์ผ่านบัตร แล้วเอาเงินไปจ่าเลย ไม่อยากเป็นหนี้บัตรเยอะ มันเลยโชว์ราคาปอนด์ตอนจอง แต่พอจองแล้วตัดบัตรมันเลยโชว์ราคาไทยมาให้ด้วยค่ะ

ในส่วนการผ่าน ตม. ที่อังกฤษ จะมาแบ่งประสบการณ์นะคะ แต่รอทำอันต่อไป
พาร์ทนี้จบแล้ว ขอบคุณที่เสียเวลาอ่านมากๆนะคะ เผื่อมีประโยชน์บ้างเนอะ กราบบบ

หน้าต่อไปจะอธิบายการเดินทางของเรานะคะ ไม่ยาก และไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เราไม่ค่อยมี map เราใช้แต่โทรศัพท์ค่ะ http://ssrinuanchat.blogspot.com/2017/02/11-11days-in-uk.html

เตรียมตัวก่อนไปเยือนเมืองผู้ดี

       

นึกไม่ออก แต่เป็นเส้นไปห้าง Harrods

      สวัสดีค่ะ เขียนรีวิวครั้งแรกนะคะ ต้องการให้เพิ่มในส่วนไหนบอกเลยค่ะ การเดินทางครั้งนี้ไปคนเดียว ไม่มีเพื่อนรอเที่ยวที่โน้น หาใหม่ข้างหน้าหมดเลยค่ะ 
      สาเหตุที่ไปคนเดียว คือ เราอยู่ในช่วงทำงาน แล้วเวลาลางานช่วงวันหยุดที่สามารถลาได้ก็ไม่ตรงกันสักที บางคนก็ยังไม่พร้อม เลยต้องแยกย้ายกันไปตามวันเวลาที่สะดวกกันค่ะ ถ้าพร้อมกันเมื่อไหร่ ก็ไปกันอีก
      ไปเมืองนอกคนเดียว ผู้หญิง อันตรายมั้ย!!!??? มันก็อันตรายทุกที่ แต่เราต้องดูแลตัวเองดีดี และรู้จักการเที่ยวที่ดีพอควร ไม่ไปในที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย แต่ที่โน้นสำหรับเรา ปลอดภัยนะคะ ไปมาแล้ว ตอนแรกลงเครื่องไฟท์ดึกก็กลัวค่ะ แล้วทางเดินไปที่พัก มันใกล้ก็จริง แต่มัน 2ทุ่มแล้วงัย ไม่ใช่บ้านเรา เลยกังวล แต่พอวันแรกผ่านมาได้ วันต่อไปก็ฉลุยค่ะ 
    ครั้งแรกที่ไปคนเดียว เลยมีเรื่องเล่า มาเล่าสู่กันฟังเพื่อประโยชน์อันนิดหน่อยจะช่วยคนที่เที่ยวแบบตามใจตัวเองได้นะคะ
     เรื่องมีอยู่ว่า คิดไว้แล้วถ้าไปเที่ยวยุโรป ยังไงก็ขออังกฤษ อันดับ 1 แล้วที่เหลือค่อยว่ากัน🤣 #ความชอบส่วนตัว และทริปนี้เราใช้เวลาเตรียมตัวนานพอสมควรค่ะ มันมีรายละเอียดเยอะจริงๆ สำหรับพนักงานบริษัท หรือเรียกอีกอย่างคือ มนุษย์เงินเดือนนั้นเอง เราขอแค่ 11 วันในที่ที่เราใฝ่ฝัน ตามมาเลย
ค่ะ ว่าเราเตรียมตัวอลังค์การขนาดไหน😂😂💋💋❄️❄️❄️

เลือกช่วงเวลการเดินทางของเรา 

เราชอบอากาศหนาวแล้วก็เริ่มดูราคาตั๋วคร่าวๆว่า ราคามันเท่าไหร่ เพื่อดูงบประมาณที่เราต้องเก็บเงินแล้วเราเลือกบินตรงค่ะ มีสายการบินที่เราดูแค่ 

1. EVA airline

2. British airline 

3. Thai away 

สรุป EVA ราคาช่วงนี้ถูกสุด แต่ยกเว้นเดือนธันวาคม เพราะเป็นวัน Christmas 

อาหารบนเครื่องบิน ถ่ายมาได้แค่มื้อแรก มื้อที่สองก่อนเครื่องแลนดิ้ง ลืมถ่าย 555++

เริ่มค่ะขั้นตอนต่อไป เดินบัญชียังไง โอ้วยูวววววว ทำยังไงดี!!! ใจเย็น วางแพลนคะ 

เดิน Statement เพื่อใช้ยื่นขอวีซ่า UK (ไม่ใช่เชงเก้นนะคะ)

เราเริ่มโดยการเปิดบัญชีใหม่เลย ที่ไม่ใช่บัญชีเงินเดือน แล้วก็ไม่ทำบัตร ATM แต่ทำประกันแบบออมทรัพย์อันนึงที่ตัดผ่านบัญชีนี้ เพื่อให้รู้ว่า บัญชีนี้ มีการใช้ และมีการเข้าออกของเงินเป็นประจำทุกเดือน และเหมือนเป็นการเก็บเงินไปอีกด้วย ดีงามมม👏🏻👏🏻และสิ่งที่เราทำคือ

1. ไม่เอาเงินก้อนโตมาแปะไว้ในบัญชี แล้วปล่อยให้น้องนอนนิ่งๆ เพราะเสี่ยงต่อการสงสัยว่าไปเอามาจากไหน แล้วทำไมมันไม่มีการเคลื่อนไหว
2. เดินบัญชีมาเรื่อยๆค่ะ นานๆไปเลย มนุษย์เงินเดือน ค่อยๆเก็บค่ะ ใจเย็นๆ ได้พร้าเล่มงามแน่นอน ป๊าดดดดดด!!!!!!
3. ควรเก็บให้ถึงหลักแสนดีกว่า หรือให้ครอบคลุมกับการใช้ชีวิตเที่ยวในเมืองของเขา ตีค่าของใช้ทุกอย่างให้ราคาสูงไว้ก่อน
4. พอถึงหลักแสนที่เราต้องการ ก็ดูกันค่ะ ในช่วงที่เงินเราครบแสนนั้น ครบ 6เดือนรึยัง เช่น เดือนที่5 เราครบแสน แล้วเดือสที่6-10 เรายังใส่เงินไปอยู่ และเงินของเราก็ยังแสนกว่าๆอยู่ พอครบ 6เดือน ก็เตรียมเอกสารยื่น Visaค่ะ และในช่วงที่เราเดินบัญชี ควรเก็บเงินเที่ยวด้วยนะ เดือน 1000-3000 พอประมาณ มันจะได้ไม่เสียเวลา
5. ใครที่กลัวไม่ทัน ก็ชวนคนที่เขาไว้ใจเรา และอยากเก็บเงิน เอาเงินมาฝากในบัญชีเราได้ และเราก็จะได้เก็บเงินเที่ยวมากกว่าเงินที่เดินบัญชี เพราะเรามีคนช่วย

6. เราเก็บเดือนละ 1500 - 2000 เก็บปุ๊บแลกเงินเลย เพื่อป้องกันการเอาเงินไทยมาใช้ กลัวไม่ได้เที่ยว 555++ ไม่สนใจเรทเงินด้วย 

***ส่วนเรื่องยื่นวีซ่า จะมีอธิบายในอันถัดไปนะคะ กำลังทำอยู่ค่ะ

Joined with 1 Day tour of Evan Evans Tour

ในช่วงที่เราเดิน statement นั้น หาข้อมูลการเที่ยวไปค่ะ ที่พัก การเดินทาง ไปในเมืองที่เราจะไป เป็นยังไงบ้าง คุณคะ!!! พอเราเปิดหาข้อมูลแล้ว ความคิดมันจะพุ่งมาก!!!😆 ตรงโน้นก็อยากไป ตรงนี้ก็อยากไป โอ้ยเมืองนั้นไปยังไง ใกล้ที่เที่ยวหรือสถานที่ที่เราชอบมั้ย ก็หาไป อากู๋มีข้อมูลเยอะแยะ (ตอนนั่นที่ไป ไม่ได้คิดถึงภาษาเลยว่าได้รึป่าว คิดอย่างเดียวคือ อยากไป😘) อย่าลืมเล่น google map นะ มันดีจริงๆ แต่เราเลือกเมืองที่อยากไปก่อน แล้วตามด้วย การหาข้อมูลรถไฟ

This photo is Loch Ness
Joined with Rabbie's tour (Isle of sky ,3Day)

รถไฟ ไปตามเมืองที่เราต้องการ

ส่วนตัวเราดูรถไฟก่อนจอง hostel เพราะเราจะหาที่พักใกล้สถานีรถไฟเพื่อความสะดวกในการขนย้ายตัวเอง 555++ 

🚅🚇

การจองรถไฟข้ามเมืองหรือไปไหนสักที่ที่อยากไปใน UK 

เราจะเขียนในฐานะที่เรางบน้อยนะคะ
เราควรหาที่เที่ยวและวางแพลนไว้ล่วงหน้าเยอะๆเลยยิ่งดี เพราะเราเองก็แพลนนานมากจริงๆ (แพลนจนเพื่อนเบื่อ ถามจนคนให้ข้อมูลคิดว่าจะไปวันพรุ่งนี้ 555++)

เมื่อเราได้แพลนที่เราวางไว้แล้วก็เริ่มจองกันเลย
1. เข้าเว็บไซด์ http://www.nationalrail.co.uk ( จองออนไลน์ )
2. เลือกสถานีที่เราขึ้น และ สถานีปลายทางที่เราจะไป วันและเวลาที่จะไป
3. เว็บไซด์นี้จะนำพาเราไปยังเว็บไซด์ของรถไฟที่จะพาเราไปอีกที (จะให้สมัครสมาชิก ก็สมัครไปนะคะ)
4. จองเลย ตามใจที่ต้องการ 😄
5. เลือกรับต๋วที่สถานี ที่ไปขึ้นรถไฟ

การรับตั๋วที่เครื่องจำหน่ายตั๋ว
1. เลือกกดที่รับตั๋วเอง
2. เสียบบัตรเครดิตที่เราใช้จองตั๋ว
3. หน้าจอจะให้เราใส่ Booking Ref or Booking No
4. แล้วหน้าจอก็จะบอกให้เราเอาการ์ดออก
5. รับตั๋วช่องด้านล่าง ดูดีดี ตั๋วมีกี่ใบ
เพราะบางที่ มี 1 2 หรือ 3 ใบก็เป็นได้
555+ ( เจอหมดเลย )
 *** เราลืมถ่ายรูปตู้มา -_- แต่ทำง่าย สบายมาก ทำตามขั้นตอนที่บอกเลยค่ะ

Note 
1. รถไฟที่นี้ตรงเวลามาก ถ้าจะ late ก็ไม่เกิน 5นาที
2. ถ้ากลัวเลย หรือหลงสถานี ก็ดูเวลาตามที่เราจองไว้เลย ตรงจริงๆ หรือไม่ก็ดู calling point จะมีบอกตามเว็บที่เราจอง
3. ถ้ามีเปลี่ยนสถานี ก็ไม่ต้องกลัว แค่รีบหา Platform ว่าเราต้องเปลี่ยนไปที่ Platform ไหน หาง่าย ป้ายบอกชัดเจน
4. ถ้ามีเปลี่ยน train ก็ลองดูว่า ถ้าเราจองไปกลับ ตรงเลย จะแพงมากกว่าหรือถูกกว่ากับการจองแยก (เราทำทั้ง2อย่าง)
5. คนทีสัมภาระเยอะ หรือใหญ่ ก็จองติดประตู เพราะจะมีชั้นวางกระเป๋าใบใหญ่ สะดวกต่อการขนขึ้นลง
6. เราจองตั๋วรถไฟล่วงหน้า 2-3 เดือน หรือเช็คบ่อยๆ ว่าวันที่เราจะไป เปิดให้จองหรือยัง
7. จองนานตั๋วถูก จองใกล้ๆ แพงไฟกระพริบ5555+
8. อย่าลืมเก็บตั๋ว เพราะมีการตรวจตั๋วบนรถไฟ
9. ถ้ามีกรณีฉุกเฉิน 
    - จองกับพนักงานที่สถานี ในการจองตั๋วรถไฟ ให้เราดูจากเว็บ nation rail ก่อนไปจองที่สถานี           
      โดยตรง บางทีอาจจะมีราคาถูก เพราะบางทีราคาที่พนักงานบอก เขาจะบอกราคาสูง เราต้องบอก    
      เขาว่าขอราคาถูกค่ะ
    - จองกับตู้ก็ได้ ทำตามขั้นตอนที่ตู้บอกเลยค่ะ 
       *** แต่เราจองกับพนักงาน และขอราคาที่ถูกค่ะ

นี้คือตั๋วรถไฟ ที่จองจาก Windermere to London Euston ซึ่งมีการเปลี่ยนขบวน 1 ครั้ง

ใบแรก จะบอกว่าเราขึ้นจากไหน ไปลงสถานีปลายทางที่ไหน

ใบที่ 2 คือใบที่เราจะเปลี่ยนขบวนโดยเปลี่ยนที่สถานี Oxenholme Lake district ตรงที่ seat ไม่มีระบุ แปลว่ คุณเลือกที่นั่งตรงไหนก็ได้

ใบที่ 3 คือ ใบที่ขึ้นจาก Oxenholme to London Euston

หา Hostel ที่ใกล้สถานีรถไฟ หรือสะดวกในการเดินทาง

เมื่อเราได้ว่าในแต่ละวันเราไปตรงไหน แล้วรถไฟไปลงสถานีไรบ้าง และเราเลือก hostel ตลอดการเดินทาง แล้วเลือกสัก 1เว็บเพื่อจอง Hostel สำหรับเราคิดว่ามันง่ายที่จะจำว่าเราจองอะไรยังไง ไม่งั้นคุณก็จะเข้าๆออกๆเว็บจองโรงแรมไม่หยุดแน่ และรีวิวที่พักจากคนที่เคยไปก็สำคัญ อย่าลืมอ่านและทำความเข้าใจ ที่สำคัญ google map เล่นไปเยอะๆ นะคะ ศึกษาเส้นทาง การเดินทาง ที่โน้น google map เป๊ะเว่อร์!!!! หาสถานที่ไหนไม่เจอ google map ช่วยคุณได้จริงๆค่ะ

***แนะนำว่า ถ้าจะนอนแบบโดม เลือกแบบรวมหญิงดีกว่านะคะ เพราะเราจองรวมหญิงชาย (ที่ลอนดอน) พี่ท่านเล่นบีทบอกซ ตลอดคืนเลยค่ะ

Hostel name is Royal mile backpacker (Female dorm) เราลืมถ่ายภาพในห้องนอน แต่ confirm ว่าดีมากค่ะ เงียบ และใกล้สถานีรถไฟและสถานที่เที่ยวใน Edinburgh

เตรียมเสื้อผ้า
ในช่วงหน้าหนาวที่เราไป อากาศจะเป็นช่วง -2 องศา ถึง 10 องศา
Scotland and Windermere จะมีอากาศ -2 องศา ถึง 4 องศา
London 6 องศา ถึง 10 องศา
เราเป็นคนทนหนาว ทุกๆวันที่ใส่คือ Heattech เสื้อแขนยาว แล้วก็เสื้อกันหนาว แต่ถ้าหนาวมากก็เพิ่มเสื้อกันหนาไปอีก ใส่ทับเลยเด้อ ส่วนกางเกง ใส่แบบนี้ตลอดทริป
***พวกเสื้อผ้าแนะนำ ซื้อจากเมืองหนาวดีกว่าค่ะ ความคิดนี้อาจจะส่วนตัวนิดนึง🤣

อากาศที่โน่นหนาว และพร้อมทัพเสริม ลม ฝน และแดด!!!! ภายใน 1ชม. เจอครบค่ะ ยาประจำตัวพกไว้ไม่เสียหาย 

Highlands ,Isle of Sky joined with Rabbie's Tour (Isle of sky 3Day)

อุปกรณ์ต่างๆ
สิ่งที่เราเตรียมไปในการเดินทางครั้งนี้
- Gopro hero silver4
- iPhone ของเรา1เครื่อง ยืมพี่สาว 1เครื่อง กลัวเต็ม เลยยืมไปเผื่อไว้ก่อน
- กระเป๋า Backpack 45+10
- รองเท้าผ้าใบ สำคัญนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ เดินเยอะขนาดนี้ ขึ้นเขา เดินบนหิน ลงน้ำ ควรพกคู่ที่ทนทานและสบายในการสวมใส่ 

- ร่ม

Benz minibus white colour 16 seat

Joined with Rabbie's Tour (Isle of sky ,3Day)

ในส่วนของการเตรียมตัวที่นึกออก มีแค่นี้ค่ะ แล้วถ้ามีเพิ่มมาจะมาเขียนเพิ่มนะคะ

ยังไม่จบนะ ยังมีพาร์ทต่อ จะเป็นเกี่ยวกับ การยื่นวีซ่า การจองทุกอย่างที่แพลนไว้ค่ะ  >>> ยื่นวีซ่า และที่พัก